カオサン近辺で伝統的なタイ・カレーを楽しみたいなら「トッサガン・タイカレーハウス(Tossakan Thai Curry House)」
タイの伝統的なスープ料理——外国人にはタイ・カレーと呼ばれるメニューが好きな人におすすめなのが「トッサガン・タイカレーハウス(Tossakan Thai Curry House)」です。カオサン通りの裏手にあたるソイ・ランブトリーにあります。オーナーはタイ料理をこよなく愛し、かつ昔ながらのタイ・カレーを世界に伝えることを使命に感じている人物。タイ・カレーとひと口に言ってもいろいろな種類があり、調理の温度や時間、材料もまったく異なります。
実に100年を超える歴史もあり、その味わいをこのトッサガンで再現したのです。タイ・カレーの素になるペーストはすべて自家製。香草やスパイスを20種類以上も混ぜ合わせて作っていて、酸味や甘さ、塩味や辛さというすべての味の要素が入る、この店だけの味わいです。そんな伝統的タイ・カレーのおすすめメニューをいくつか紹介します。
『マッサマン・カレーと5時間煮込んだ牛肉のセット』(Massaman Curry with 5 Hours Braised Beef Set)トッサガンではセットメニューも用意しています。セットとはいえ、タイ・カレーにはとにかく全力を注いでいるので、ペーストから自家製であり、たとえばクミン、シナモン、ローリエの葉や実を始めとしたスパイス各種もたくさん使っています。さらに香草も多数。伝統的なタイ・カレーをシェフの力で再現し、タイ料理に大切な4つの味——酸味、塩味、甘味、辛味もしっかり感じられます。さらに、4~5時間も煮込んで柔らかくした牛の頬肉も。柔らかいけれども歯ごたえもしっかりしています。これらをローティー、温泉卵、アージャート(酸味の強いタレ)、プリック・ナンプラーで食べることができます。トッサガンのセットメニューはローティーをほかの炭水化物に、肉もほかの種類に変更することも可能です。
『イエロー・カレーとフライドチキンのセット』(Yellow Curry with Fried Chicken)この店のイエロー・カレーはウコンとカレー粉を使用するので、伝統的かつ濃い味を再現できています。少し甘みも感じるのはココナッツミルクを使用しているから。酸味はなんとパイナップル由来です。具材としてのジャガイモ、トマト、タマネギもまた自然な甘みが加わる要因でしょう。カレーの辛さはもちろんスパイスやトウガラシからで、鶏肉はタイ式にニンニクやコショウ、パクチーの根などに漬けこんだあと、衣をつけて揚げています。これが驚くほどイエロー・カレーに合っているのです。これをローティーやキャベツの漬物と一緒に食べると、日本のカレーとはまったく違う体験になることでしょう。
『グリーン・カレーとガイヤーンのセット』(Green Curry with Grilled Chicken Set)これは誰もが好きなタイ・カレーでしょう。緑色のトウガラシと香草類を由来としたペーストを使っているので、グリーンが特徴的なカレーといえます。伝統的な味わいを踏襲していて、甘味や油っぽいいい香りは多用するココナッツミルクやココナッツシュガー由来ですし、下の奥で感じる辛さはトウガラシのもの。タイのナスを入れ、コブミカンの葉やスイートバジルを加えることでさらに爽やかな香りが立ってきます。トッピングにはガイヤーン。もも肉をニンニクなどに60分ほど漬けこみ、おいしそうな匂いがするように焼いています。このセットの場合は白米(タイ米)、つけ合わせに茶碗蒸し、アージャート、プリック・ナンプラーがついてきます。もちろん炭水化物、肉の種類は変更可能です。
『パネン・カレーとスズキの焼き物のセット』(Panang Curry with Grilled Sea Bass Set )パネンはあまり辛くないタイ・カレーのひとつです。それは赤トウガラシと乾燥トウガラシを使っている上に、ピーナッツもペーストに使用しているため、甘味が強めで辛味も舌の奥で少し感じる程度でしょう。カレーの上にはスズキの焼き物。新鮮で身も締まっていて、カレーにぴったり。白米、豚肉のから揚げもセットにあり、満足のいくメニューであること間違いなしでしょう。『ベジタリアン・グリーン・カレーと揚げ豆腐のセット』
『ヤム・ヌアヤーン』(Grilled Beef Spicy Salad )サラダ系のメニューにひとつで、エイジングしたタイ-フレンチ牛の肩肉のステーキを焼き、ヤム(タイ・サラダ)向きにスライス。タイ料理の基本4味が全部体験できる上、牛肉の旨味を感じることができます。








『ソムチュン』(Som Chun )タイの伝統的甘味ですが、現代ではみつけるのが難しいメニューです。シロップを使ったスイーツのひとつ。トッサガンではシロップをダイダイから作っているので、香りと甘味が特徴的になっています。シロップにはライチ、リュウガン、ランブータン、オレンジ、ザクロが浮かんでいます。ショウガの千切りが少し入っているので、少し辛味も感じることでしょう。さらにマンゴーの青いもの、ライムの搾り汁、コブミカンの皮を削ったものも入っているので、冷たくて爽やかなデザートといったところです。
『カオニヤオ・マムアン』(Mango Sticky Rice )タイならではの伝統デザートもあります。もち米の品種選びからこだわっているので、色が白く、かつ太めの粒が特徴的。これをココナッツミルクで和えているので、完熟マンゴーの甘味だけでなく、もち米の甘みもたまりません。
『ローゼル・レモン』(Rosella Lemon )ドリンクメニューのひとつで、ドライ・ローゼルを用いていて、ホットでもコールドでも美味しいドリンクになっています。甘味とほんのりの酸味、冷たいものであればその爽やかさが最高です。カップは「ティマー」とタイ南部で呼ばれる容器なので、写真の撮っても映える飲みものになっています。


『バタフライピー・レモン』(Butterfly Pea Lemon )このドリンクはチョウマメという青い花を使っているもので、健康への効能が多くあるとされています。これもホットでもコールドでもおいしいです。生のライム汁を搾っているので、爽やかなドリンクになっています。
ほかにもたくさんのメニューがトッサガンにあります。デリバリーも可能で、Grab Food、LINE MANが便利。また、直接電話でも対応しています。
ร้านอาหารไทยแท้รสดั้งเดิมเน้นแกงไทยต้องมาทานที่ Tossakan Thai Curry House อยู่ซอยรามบุตรี ใกล้ถนนข้าวสาร ด้วยความที่เจ้าของร้านมีความรักในอาหารไทย และต้องการนำเสนอแกงไทยในรสชาติดั้งเดิมให้ไประดับโลก โดยพิถีพิถันทุกขั้นตอน ทั้งควบคุมเวลา และอุณหภูมิ ซึ่งแกงไทยแต่ละชนิดจะใช้วัตถุดิบไม่เหมือนกัน จากสูตรเชฟจากร้านอาหารไทยมิชลินไกด์ ทำให้เป็นแกงไทยแบบต้นตำรับ ยาวนานกว่า 100 ปี แกงของที่ร้านทำจากพริกแกงโฮมเมด ที่มีส่วนผสมของสมุนไพร และเครื่องเทศกว่า 20 ชนิด เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านที่ให้รสชาติ เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ซึ่งหาทานได้จากร้านทศกัณฐ์เท่านั้น ว่าแล้วก็มาดูเมนูที่ทางร้านแนะนำกันคะ
Massaman Curry with 5 Hours Braised Beef Set (เซ็ตแกงมัสมั่นเนื้อตุ๋น) ทางร้านจะเสิร์ฟเป็นเซ็ต ทำตั้งแต่เครื่องแกงเป็นสูตรที่คงรสชาติความร้อนแรงของยี่หร่า และเครื่องเทศอีกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นอบเชย ใบกระวาน และสมุนไพรต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นสูตรแกงไทยจากเชฟ ที่มีความเข้มข้น รสชาติแบบถึงเครื่อง ครบทั้ง 4 รส เข้มข้นจัดจ้าน ด้วยเปรี้ยวหวานและเค็ม โดยรวมแบบกลมกล่อมถึงเครื่อง บวกับเนื้อตุ๋นที่ทางร้านเลือกเป็นเนื้อแก้มวัวนำมาเคี่ยวประมาณ 4-5 ชั่วโมงเพื่อให้ได้เนื้อที่นุ่มแต่ว่ายังมีความหนึบสู้ฟันนิดๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับโรตี ไข่ออนเซน น้ำจิ้มอาจาด และพริกน้ำปลา บอกได้เลยว่าคุณจะลืมมัสมั่นที่เคยทานมาเลย (ภายในเซตสามารถเปลี่ยนเนื้อสัตว์ได้ รวมทั้งคาร์โบไฮเดรต และเครื่องเคียงได้ตามใจชอบอีกด้วย)
Yellow Curry with Fried Chicken (เซ็ตแกงกะหรี่ไก่ทอด) ที่ร้านจะเน้นเป็นแกงกะหรี่ไทยที่มีรสชาติโดดเด่นด้วยขมิ้นและผงกระหรี่แบบเข้มข้น โดยจะได้รสสัมผัสที่นวลละมุน หวานมันจากกะทิ และมีรสอมเปรี้ยวนิดๆ จากสับปะรด มันฝรั่งที่มีเนื้อหนึบ มะเขือเทศและหอมใหญ่ช่วยเพิ่มรสชาติความหวานแบบธรรมชาติได้เป็นอย่างดี แกงจะมีความเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศและพริกแบบไทย ส่วนไก่จะใช้เป็นสะโพกนำมาหมักสไตล์ไทยโดยใช้กระเทียม พริกไทย รากผักชีโขกแล้วนำมาหมัก ชุบแป้งทอดให้กรอบนอกนุ่มใน ซึ่งเข้ากันเป็นอย่างมาก เสิร์ฟมาพร้อมกับโรตี ตัดเลี่ยนด้วยเครื่องเคียงอย่างกะหล่ำม่วงดอง น้ำจิ้มอาจาด และพริกน้ำปลา บอกได้เลยว่าไม่เหมือนข้าวแกงกะหรี่แบบญี่ปุ่นเลย ต้องมาลองว่าเด็ดแค่ไหน(ภายในเซตสามารถเปลี่ยนเนื้อสัตว์ได้ รวมทั้งคาร์โบไฮเดรต และเครื่องเคียงได้ตามใจชอบอีกด้วย)
Green Curry with Grilled Chicken Set (เซ็ตแกงเขียวหวานไก่ย่าง) เป็นแกงยอดนิยมของคนไทยและต่างชาติ ซึ่งมีลักษณะสีเขียวนวล จากส่วนผสมของเครื่องแกงอย่างพริกขี้หนูเขียวและสมุนไพร รสชาติเป็นแบบต้นตำรับโดยมีรสเค็มนำ ตามด้วยรสหวาน หอมมัน จากกะทิและน้ำตาลมะพร้าว เผ็ดปลายลิ้นจากพริกขี้หนูสวน ใส่มะเขือเปาะ มะเขือพวง เมื่อสุกได้ที่แล้วใส่ใบมะกรูดและใบโหระพาลงไปให้ได้ความหอมสดชื่นและเป็นเอกลักษณ์ของแกงเขียวหวาน ท๊อปด้วยไก่ย่าง จะใช้เป็นเนื้อส่วนสะโพกนำไปหมักกับกระเทียม พริกไทย และรากผักชี ก่อนจะนำไปซูวีประมาณ 60 นาที แล้วค่อยนำมาย่างให้มีความหอม บอกได้เลยว่าเนื้อไก่นุ่มมาก เข้ากันได้ดีกับแกงเขียวหวาน เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ เครื่องเคียงอย่างไข่ตุ๋น น้ำจิ้มอาจาด และพริกน้ำปลา ถ้าได้ทานเซ็ตนี้คุณจะลืมมัสมั่นที่เคยทานมาเลย (ภายในเซตสามารถเปลี่ยนเนื้อสัตว์ได้ รวมทั้งคาร์โบไฮเดรต และเครื่องเคียงได้ตามใจชอบอีกด้วย)
Panang Curry with Grilled Sea Bass Set (เซ็ตแกงพะแนงปลากะพงย่าง) เป็นแกงที่มีรสชาติเผ็ดน้อยที่สุดในบรรดาแกงไทย ซึ่งจะเน้นพริกแดงสดและพริกแห้งของไทยเป็นส่วนผสมหลัก เพราะว่าจะใส่ถั่วลิสงป่นลงไปในน้ำแกงด้วย รสชาติของแกงจะมีรสหวานนวลๆตามด้วยรสเค็ม มัน และเผ็ดปลายลิ้นเล็กน้อย ได้ความหอมจากใบมะกรูด ท๊อปด้วยเนื้อปลากะพงย่าง เนื้อสด แน่น เด้ง ทานคู่กันน้ำแกงมีรสกลมกล่อม มีข้าวสวยร้อนๆ และหมูก้อนทอด น้ำจิ้มอาจาด และพริกน้ำปลาทานแล้วฟินมาก (ภายในเซตสามารถเปลี่ยนเนื้อสัตว์ได้ รวมทั้งคาร์โบไฮเดรต และเครื่องเคียงได้ตามใจชอบอีกด้วย)
Green Curry (V) with Fried Tofu (เช็ตแกงเขียวหวานเต้าหู้ทอด เจ) ทางร้านยังมีแกงเจไว้คอยบริการสำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์อีกด้วย ซึ่งใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการทำเครื่องแกง โดยจะใช้แผ่นถั่วหมักแบบแห้งแทนกะปิ และซอสถั่วเหลืองอย่างดีแทนน้ำปลา และใช้เต้าหู้อ่อนที่ทำจากถั่วเหลือง นำไปทอดให้เหลือง แทนเนื้อสัตว์ เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ ผัดถั่วงอกกับเต้าหู้ ซอสเจสูตรเด็ดของทางร้านมากับน้ำจิ้มอาจาด และพริกน้ำปลาที่ทำมาจากซีอิ้วขาว เมื่อได้ลองทานแล้วแทบแยกไม่ออกเลยว่าเป็นเจ เพราะรสชาติยังเข้มข้น กลมกล่อมให้เคียงกับแกงเขียวหวานปกติเลย
Grilled Beef Spicy Salad (ยำเนื้อย่าง) ทางร้านเลือกใช้เป็นเนื้อสเต็กท็อปราวน์ดรายเอจย่าง โดยใช้เป็นเนื้อโคขุนไทยที่ได้คัดสรรมาเป็นอย่างดี นำมาย่างแล้วยำสไตล์ไทยรสชาติจัดจ้าน มีทั้งรสเปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน เนื้อมีความนุ่ม ไม่เหนียว ไม่คาว จะทานกับข้าว หรือว่าเป็นกับแกล้มก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี
Som Chun (ส้มฉุน) เป็นของหวานไทยโบราณที่ปัจจุบันหาทานได้ยากมาก เป็นของหวานประเภทลอยแก้ว จุดเด่นของเมนูนี้อยู่ที่น้ำเชื่อมที่ทางร้านทำมาจากส้มซ่านำไปเคี่ยวจนได้น้ำเชื่อมที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งภายในก็จะมี เนื้อลิ้นจี่ ลำไย เงาะ ส้ม และทับทิม แล้วโรยด้วยขิงซอยให้มีความเผ็ดร้อนนิดๆ มะม่วงดิบเปรี้ยวหั่นฝอย บีบมะนาวเพื่อตัดความหวาน ขูดผิวมะกรูดลงไปอีกนิดแล้วโรยด้วยหอมเจียวเสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำเย็นป่น เป็นความอร่อยที่ลงตัวอย่างคาดไม่ถึง ทานแล้วรู้สึกสดชื่น คลายร้อนได้เป็นอย่างดี
Mango Sticky Rice (ข้าวเหนียวมะม่วง) ถือว่าเป็นเมนูของหวานยอดฮิตตลอดกาลเลยก็ว่าได้ที่ใครมาแล้วต้องทาน ทางร้านเลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ทำให้ได้เม็ดที่ขาวนวล อวบ มามูลกับกะทิสด ซึ่งข้าวเหนียวมีความนุ่ม หอม หวาน มันกำลังดี กินคู่กับมะม่วงที่คัดมา โรยด้วยถั่วทอง และกะทิข้นๆ บอกได้เลยว่าเมนูนี้ห้ามพลาด
Rosella Lemon (น้ำกระเจี๊ยบ) จะเลือกใช้เป็นกระเจี๊ยบแห้งนำมาชง สามารถดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น ซึ่งจะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวทานกับน้ำแข็งด้วยแล้วทำให้รู้สึกสดชื่นเสิร์ฟมาในภาชนะสุดเก๋ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านทางภาคใต้ของไทยที่เรียกว่า ติหมา ทำให้ดูแปลกและน่าดื่มยิ่งขึ้น
Butterfly Pea Lemon อัญชันมะนาวเด็ดมาก เพราะทางร้านใช้ดอกอัญชันที่ขึ้นชื่อเรื่องประโยชน์ต่อสุขภาพนำมาชง สามารถดื่มได้ทั้งแบบร้อนและเย็น โดยจะใส่น้ำมะนาวคั้นสดลงไปเพื่อเพิ่มความสดชื่น ถือเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพชั้นดีก็ว่าได้
นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูให้เลือกอีกมากมาย สามารถไปดูเมนูเพิ่มเติมได้ที่ร้าน และยังมีบริการสั่งผ่านแอพ Grab Food, Line Man หรือจะโทรไปสั่งที่ร้านโดยตรงก็ได้เช่นกัน
Yellow Curry with Fried Chicken (เซ็ตแกงกะหรี่ไก่ทอด) ที่ร้านจะเน้นเป็นแกงกะหรี่ไทยที่มีรสชาติโดดเด่นด้วยขมิ้นและผงกระหรี่แบบเข้มข้น โดยจะได้รสสัมผัสที่นวลละมุน หวานมันจากกะทิ และมีรสอมเปรี้ยวนิดๆ จากสับปะรด มันฝรั่งที่มีเนื้อหนึบ มะเขือเทศและหอมใหญ่ช่วยเพิ่มรสชาติความหวานแบบธรรมชาติได้เป็นอย่างดี แกงจะมีความเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศและพริกแบบไทย ส่วนไก่จะใช้เป็นสะโพกนำมาหมักสไตล์ไทยโดยใช้กระเทียม พริกไทย รากผักชีโขกแล้วนำมาหมัก ชุบแป้งทอดให้กรอบนอกนุ่มใน ซึ่งเข้ากันเป็นอย่างมาก เสิร์ฟมาพร้อมกับโรตี ตัดเลี่ยนด้วยเครื่องเคียงอย่างกะหล่ำม่วงดอง น้ำจิ้มอาจาด และพริกน้ำปลา บอกได้เลยว่าไม่เหมือนข้าวแกงกะหรี่แบบญี่ปุ่นเลย ต้องมาลองว่าเด็ดแค่ไหน(ภายในเซตสามารถเปลี่ยนเนื้อสัตว์ได้ รวมทั้งคาร์โบไฮเดรต และเครื่องเคียงได้ตามใจชอบอีกด้วย)
Green Curry with Grilled Chicken Set (เซ็ตแกงเขียวหวานไก่ย่าง) เป็นแกงยอดนิยมของคนไทยและต่างชาติ ซึ่งมีลักษณะสีเขียวนวล จากส่วนผสมของเครื่องแกงอย่างพริกขี้หนูเขียวและสมุนไพร รสชาติเป็นแบบต้นตำรับโดยมีรสเค็มนำ ตามด้วยรสหวาน หอมมัน จากกะทิและน้ำตาลมะพร้าว เผ็ดปลายลิ้นจากพริกขี้หนูสวน ใส่มะเขือเปาะ มะเขือพวง เมื่อสุกได้ที่แล้วใส่ใบมะกรูดและใบโหระพาลงไปให้ได้ความหอมสดชื่นและเป็นเอกลักษณ์ของแกงเขียวหวาน ท๊อปด้วยไก่ย่าง จะใช้เป็นเนื้อส่วนสะโพกนำไปหมักกับกระเทียม พริกไทย และรากผักชี ก่อนจะนำไปซูวีประมาณ 60 นาที แล้วค่อยนำมาย่างให้มีความหอม บอกได้เลยว่าเนื้อไก่นุ่มมาก เข้ากันได้ดีกับแกงเขียวหวาน เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ เครื่องเคียงอย่างไข่ตุ๋น น้ำจิ้มอาจาด และพริกน้ำปลา ถ้าได้ทานเซ็ตนี้คุณจะลืมมัสมั่นที่เคยทานมาเลย (ภายในเซตสามารถเปลี่ยนเนื้อสัตว์ได้ รวมทั้งคาร์โบไฮเดรต และเครื่องเคียงได้ตามใจชอบอีกด้วย)
Panang Curry with Grilled Sea Bass Set (เซ็ตแกงพะแนงปลากะพงย่าง) เป็นแกงที่มีรสชาติเผ็ดน้อยที่สุดในบรรดาแกงไทย ซึ่งจะเน้นพริกแดงสดและพริกแห้งของไทยเป็นส่วนผสมหลัก เพราะว่าจะใส่ถั่วลิสงป่นลงไปในน้ำแกงด้วย รสชาติของแกงจะมีรสหวานนวลๆตามด้วยรสเค็ม มัน และเผ็ดปลายลิ้นเล็กน้อย ได้ความหอมจากใบมะกรูด ท๊อปด้วยเนื้อปลากะพงย่าง เนื้อสด แน่น เด้ง ทานคู่กันน้ำแกงมีรสกลมกล่อม มีข้าวสวยร้อนๆ และหมูก้อนทอด น้ำจิ้มอาจาด และพริกน้ำปลาทานแล้วฟินมาก (ภายในเซตสามารถเปลี่ยนเนื้อสัตว์ได้ รวมทั้งคาร์โบไฮเดรต และเครื่องเคียงได้ตามใจชอบอีกด้วย)
Green Curry (V) with Fried Tofu (เช็ตแกงเขียวหวานเต้าหู้ทอด เจ) ทางร้านยังมีแกงเจไว้คอยบริการสำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์อีกด้วย ซึ่งใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการทำเครื่องแกง โดยจะใช้แผ่นถั่วหมักแบบแห้งแทนกะปิ และซอสถั่วเหลืองอย่างดีแทนน้ำปลา และใช้เต้าหู้อ่อนที่ทำจากถั่วเหลือง นำไปทอดให้เหลือง แทนเนื้อสัตว์ เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ ผัดถั่วงอกกับเต้าหู้ ซอสเจสูตรเด็ดของทางร้านมากับน้ำจิ้มอาจาด และพริกน้ำปลาที่ทำมาจากซีอิ้วขาว เมื่อได้ลองทานแล้วแทบแยกไม่ออกเลยว่าเป็นเจ เพราะรสชาติยังเข้มข้น กลมกล่อมให้เคียงกับแกงเขียวหวานปกติเลย
Grilled Beef Spicy Salad (ยำเนื้อย่าง) ทางร้านเลือกใช้เป็นเนื้อสเต็กท็อปราวน์ดรายเอจย่าง โดยใช้เป็นเนื้อโคขุนไทยที่ได้คัดสรรมาเป็นอย่างดี นำมาย่างแล้วยำสไตล์ไทยรสชาติจัดจ้าน มีทั้งรสเปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน เนื้อมีความนุ่ม ไม่เหนียว ไม่คาว จะทานกับข้าว หรือว่าเป็นกับแกล้มก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี
Som Chun (ส้มฉุน) เป็นของหวานไทยโบราณที่ปัจจุบันหาทานได้ยากมาก เป็นของหวานประเภทลอยแก้ว จุดเด่นของเมนูนี้อยู่ที่น้ำเชื่อมที่ทางร้านทำมาจากส้มซ่านำไปเคี่ยวจนได้น้ำเชื่อมที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งภายในก็จะมี เนื้อลิ้นจี่ ลำไย เงาะ ส้ม และทับทิม แล้วโรยด้วยขิงซอยให้มีความเผ็ดร้อนนิดๆ มะม่วงดิบเปรี้ยวหั่นฝอย บีบมะนาวเพื่อตัดความหวาน ขูดผิวมะกรูดลงไปอีกนิดแล้วโรยด้วยหอมเจียวเสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำเย็นป่น เป็นความอร่อยที่ลงตัวอย่างคาดไม่ถึง ทานแล้วรู้สึกสดชื่น คลายร้อนได้เป็นอย่างดี
Mango Sticky Rice (ข้าวเหนียวมะม่วง) ถือว่าเป็นเมนูของหวานยอดฮิตตลอดกาลเลยก็ว่าได้ที่ใครมาแล้วต้องทาน ทางร้านเลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ทำให้ได้เม็ดที่ขาวนวล อวบ มามูลกับกะทิสด ซึ่งข้าวเหนียวมีความนุ่ม หอม หวาน มันกำลังดี กินคู่กับมะม่วงที่คัดมา โรยด้วยถั่วทอง และกะทิข้นๆ บอกได้เลยว่าเมนูนี้ห้ามพลาด
Rosella Lemon (น้ำกระเจี๊ยบ) จะเลือกใช้เป็นกระเจี๊ยบแห้งนำมาชง สามารถดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น ซึ่งจะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวทานกับน้ำแข็งด้วยแล้วทำให้รู้สึกสดชื่นเสิร์ฟมาในภาชนะสุดเก๋ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านทางภาคใต้ของไทยที่เรียกว่า ติหมา ทำให้ดูแปลกและน่าดื่มยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูให้เลือกอีกมากมาย สามารถไปดูเมนูเพิ่มเติมได้ที่ร้าน และยังมีบริการสั่งผ่านแอพ Grab Food, Line Man หรือจะโทรไปสั่งที่ร้านโดยตรงก็ได้เช่นกัน
Tossakan Thai Curry House (Khaosan)
Openlink: https://opl.to/tossakanthaicurryhouse
225 Soi Rambuttri, Bangkok
Open Daily: 12:30 - 22:00
Tel: 084-096-4605
https://maps.app.goo.gl/rFwo2dj8fsm7xrTw7
FB: Tossakan Thai Curry House
225 Soi Rambuttri, Bangkok
Open Daily: 12:30 - 22:00
Tel: 084-096-4605
https://maps.app.goo.gl/rFwo2dj8fsm7xrTw7
FB: Tossakan Thai Curry House